ปัจจุบันร้านอาหารญี่ปุ่น ถือเป็นหนึ่งในประเภทร้านอาหารที่ได้รับความนิยมมากที่สุด นั่นก็เลยยิ่งทำให้มีร้านอาหารญี่ปุ่นเปิดใหม่ขึ้นอีกมากมายเลย เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับคอเจแปนทั้งหลาย แต่กระนั้นเอง แม้ผู้บริโภคจะชื่นชอบ ถูกปาก ถูกอกถูกใจกับอาหารญี่ปุ่นเพียงใด การทำร้านอาหารญี่ปุ่นนั้นก็ยังถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายอยู่ดี ซึ่งหนึ่งในปัญหาที่หลายๆ ร้านตกม้าตาย จนทำให้การเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่ตั้งใจก็คือ “หุงข้าวญี่ปุ่นไม่อร่อย” จนทำให้รสชาติความเป็นอาหารสไตล์ญี่ปุ่น อย่างซูชิ และข้าวคัตซึต่างๆ นั้น กร่อยลงจนดึงลูกค้าไว้ไม่อยู่ นั่นเองที่ทำให้วันนี้ เราจึงจะพาทุกคนไปพบกับเคล็ดลับของการหุงข้าวญี่ปุ่นกันว่า หุงอย่างไร ถึงจะได้ข้าวที่อร่อย เหนียว นุ่ม ถูกใจเหมือนบินไปกินที่ประเทศญี่ปุ่น
หุงข้าวญี่ปุ่นง่ายๆ อร่อยได้ด้วย 5 ขั้นตอน
“ตัวข้าวญี่ปุ่น” มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ และความโดดเด่นที่ไม่เหมือนข้าวไทยบ้านเรา ที่มีความเหนียว นุ่ม ไม่เละ เหมือนข้าวหอมมะลิไทย แต่มีความเหนียวกว่า ดังนั้นการหุงข้าวญี่ปุ่น ที่จะมีความพิถีพิถันใส่ใจในรายละเอียดเป็นพิเศษ โดยแบ่งออกเป็น 5 ขั้นตอนง่ายๆ ดังต่อไปนี้
1. ตวงข้าวให้ได้ปริมาณตามต้องการ
ขั้นแรกของการหุงข้าวญี่ปุ่นนั้น คือ เราต้องตวงข้าวให้ได้ปริมาณที่ต้องการ ในการตวงนั้น ควรใช้ถ้วยตวงเพื่อให้ได้ปริมาณข้าวที่เหมาะสม และหุงออกมาได้พอดี ทั้งนี้ เหตุผลที่การตวงข้าวสำคัญก็เพราะ ปริมาณข้าวที่ตวงนั้นจะสัมพันธ์กับปริมาณของน้ำที่ใช้ในการหุงด้วย โดยข้าวแต่ละยี่ห้อก็มีอัตราส่วนที่แตกต่างกัน โดยข้าวญี่ปุ่นเอโร่ 1 ถ้วยตวง ต่อน้ำ 1.2 ถ้วยตวง
2. ซาวข้าวด้วยน้ำสะอาดอย่างน้อย 3 น้ำ
เมื่อตวงข้าวเรียบร้อยแล้วลำดับต่อมาของการหุงข้าวญี่ปุ่นก็เหมือนกับการหุงข้าวไทย คือเราต้องซาวข้าว หรือล้างข้าวด้วยน้ำสะอาดก่อน ซึ่งด้วยธรรมชาติของข้าวญี่ปุ่นที่มียางเคลือบอยู่มาก จึงจำเป็นต้องล้างน้ำหลายครั้ง และแต่ละครั้งที่ซาว ก็ต้องใช้มือถูขัดข้าวไปด้วยให้ทั่ว ซึ่งเราจะซาวประมาณ 3 ครั้งขึ้นไปจนกระทั่งน้ำซาวข้าวเป็นสีใสไม่ขุ่น แล้วใส่ตะกร้าสะเด็ดน้ำให้แห้ง เทใส่หม้อหุงข้าว แล้วเทน้ำใส่ลงไปตามอัตราส่วน หากหุงข้าวญี่ปุ่น 4 ถ้วยตวง ก็ใส่น้ำประมาณ 4.2 ถ้วยตวงเดียวกันกับที่ใช้ตวงข้าวนั่นเอง ซึ่งหลังจากใส่น้ำแล้วก็นำไปหุงปกติ
3. แช่ข้าวทิ้งไว้ในน้ำอย่างน้อย 15 นาที
โดยปกติถ้าเป็นการหุงข้าวไทย เมื่อซาวข้าวเรียบร้อยแล้ว ก็จะนำไปหุงได้เลยทันที แต่สำหรับข้าวญี่ปุ่น เราควรทำการแช่ข้าวทิ้งไว้ในน้ำสะอาดอีกอย่างน้อย 15 นาที แต่ถ้าจะให้ดีคือควรแช่ทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมง เพื่อให้ข้าวญี่ปุ่นอิ่มตัวเต็มที่ และเมื่อหุงเสร็จออกมาจะมีความเหนียวนุ่ม โดยข้อสังเกตว่าแช่ข้าวได้ที่แล้วหรือยังนั้น จะดูได้จากการที่เม็ดข้าวจะเปลี่ยนจากสีใสตอนซาว กลายเป็นสีขุ่น
4. กดปุ่มหุงได้เลย
หลังจากแช่ข้าวทิ้งไว้แล้ว ครบเวลา กดปุ่มหุงได้เลย
5. เมื่อข้าวสุก ปล่อยให้ข้าวระอุไว้สัก 10 นาทีก่อนคด
เมื่อข้าวสุกเรียบร้อยแล้ว อย่าเพิ่งเปิดฝาหม้อหุงข้าว ให้ทิ้งให้ข้าวระอุอยุ่ในหม้อประมาณ 10 นาทีก่อน แล้วให้ใช้ไม้พายจุ่มน้ำพอเปียกคดข้าวญี่ปุ่นในหม้อ โดยใช้วิธีไม้พายตัดข้าว ไม่ให้คดพลิกไปมาเพราะเมล็ดข้าวจะหักได้ไม่สวย ก็ถือเป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการ สามารถเตรียมนำเสิร์ฟได้
เพื่อนๆ ผู้ประกอบการร้านอาหารญี่ปุ่นท่านใด ที่กำลังมองหา “ข้าวญี่ปุ่นคุณภาพดี” ของแนะนำ “ข้าวญี่ปุ่น ARO” ซึ่งเป็นข้าวญี่ปุ่นพันธุ์ซาซานิชิกิ ที่เหมาะกับการนำไปทำเป็นซูชิ ข้าวปั้น หรือข้าวหน้าต่าง ๆ (เมนูด้ง) เพราะมีความเหนียว นุ่ม รสชาติอร่อย
ข้าวญี่ปุ่นสายพันธุ์ซาซานิชิกินั้น ถือว่าเป็นสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมมากในประเทศญี่ปุ่น โดยเป็นสายพันธุ์ผสมระหว่างสายพันธุ์โคชิฮิการิ ซึ่งเป็นสายพันธุ์อันดับหนึ่งกับสายพันธุ์ซาซาชิกุเระ ซึ่งในด้านของราคานั้นก็นับว่าไม่แพงเลย คืออยู่ในเกณฑ์มาตรฐานข้าวหอมมะลิไทยพันธุ์ดีทั่วไป โดยเพื่อนสามารถลองคลิกเลือกซื้อดูได้แบบสะดวกสบายผ่านทางลิงค์นี้เลยครับ https://bit.ly/2UUnFpQ รับรองว่าถูกใจไม่ผิดหวังแน่นอน