3 เรื่องสาหร่ายทะเลย่างที่ต้องใส่ใจ ถ้าอยากให้เมนูข้าวปั้น ซูชิ คิมบับ ขายดี

ปัจจุบันร้านอาหารญี่ปุ่นและร้านอาหารเกาหลี ถือว่าได้รับความนิยมเพิ่มสูงมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยหนึ่งในเมนูยอดฮิตที่จัดว่าเป็นของโปรดสำหรับคนทุกวัยที่หากมาใช้บริการแล้วต้องสั่งเกือบทุกครั้ง ก็คือ เมนูข้าวปั้นไม่ว่าจะเป็นซูชิหรือว่าคิมบับ ซึ่งหัวใจสำคัญที่ทำให้ทั้งเมนูซูชิและคิมบับอร่อยถูกปากนั้น ไม่ใช่เพียงแค่ต้องอาศัยข้าวที่นุ่มละมุน และไม่ใช่เพียงแค่หน้าซูชิหรือไส้คิมบับต้องอร่อยและแปลกใหม่เท่านั้น แต่ “สาหร่ายทะเลย่าง” ที่นำมาใช้ห่อหรือใช้เป็นหนึ่งในส่วนผสมก็ต้องเป็นสาหร่ายที่ดีและมีคุณภาพด้วย โดย 3 เรื่องสำคัญเกี่ยวกับสาหร่ายทะเลย่างที่ผู้ประกอบการร้านอาหารต้องใส่ใจและตระหนักรู้ไว้ เพื่อให้เมนูซูชิและคิมบับของร้านกลายเป็นเมนูขายดีและทำกำไรให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น มีดังต่อไปนี้

 

  1. ต้องเลือกใช้สาหร่ายทะเลย่างที่มีคุณภาพเท่านั้น

แม้ดูผิวเผินเหมือนกับว่าสาหร่ายทะเลย่างจะเป็นเพียงแค่วัตถุดิบที่ใช้ช่วยตกแต่งให้เมนูข้าวปั้น ซูชิ คิมบับ มีความสวยงามน่ารับประทานมากขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้วสาหร่ายทะเลย่างคือวัตถุดิบสำคัญที่เข้ามาช่วยเติมเต็มในเรื่องรสชาติความอร่อยและคุณประโยชน์ให้กับเมนูได้เป็นอย่างมาก ซึ่งหากเราไม่เลือกใช้สาหร่ายทะเลย่างที่มีคุณภาพ ก็จะทำให้รสชาติของเมนูข้าวปั้นผิดเพี้ยนไปได้ กลิ่นของสาหร่ายทะเลย่างที่เลือกใช้หากแรงเกินไปก็อาจกลายเป็นทำให้ลดความอยากรับประทานของลูกค้าลงได้ ตลอดไปจนถึงความกรอบของสาหร่ายก็เป็นสิ่งคัญ เพราะถ้าสาหร่ายที่เลือกนำมาห่อเมนูข้าวปั้น ซูชิ และคิมบับ ไม่กรอบ แต่แห้ง ชืด ก็จะส่งผลต่อรสสัมผัสที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกไม่ดีได้เช่นกัน รวมไปถึงรสชาติของสาหร่ายทะเลย่าง ก็จะต้องไม่ปรุงรสจัด เช่นเค็มจัด หรือเผ็ดจัดเกินไป เนื่องจากจะไปกลบรสชาติของข้าวปั้นและไส้ จนทำให้ไม่สามารถคงเอกลักษณ์ของเมนูเอาไว้ได้ตามที่ลูกค้าคาดหวัง ดังนั้น ในภาพรวมแล้ว การเลือกใช้สาหร่ายทะเลย่างสำหรับเมนูข้าวปั้น ซูชิ และคิมบับ จึงต้องอาศัยความใส่ใจและพิถีพิถัน เลือกสาหร่ายที่มีคุณภาพ ทั้งรสชาติ กลิ่น และความกรอบที่กลมกล่อมลงตัว

 

  1. ขนาดแผ่นสาหร่ายต้องตอบโจทย์กับเมนู

หลาย ๆ คนอาจมองว่าเรื่องขนาดของสาหร่ายทะเลย่างที่นำมาใช้ในการทำเมนูสไตล์ข้าวปั้นนั้นเป็นเรื่องไม่สำคัญ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ถือว่ามีส่วนสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนของเมนูได้โดยตรง ทั้งนี้ เพราะแต่ละเมนูนั้นใช้ขนาดของแผ่นสาหร่ายที่ไม่เท่ากัน เช่น คิมบับหรือซูชิโรลจะใช้สาหร่ายทะเลแผ่นใหญ่ ในขณะที่ซูชิคำและข้าวปั้นจะใช้สาหร่ายแผ่นเล็กลงมา โดยหากเราเลือกใช้แต่สาหร่ายแผ่นใหญ่อย่างเดียวในร้าน แล้วมองว่าตัดแต่งให้เล็กลงได้เพื่อใช้สำหรับเมนูขนาดเล็กอื่น ๆ ก็ต้องมั่นใจว่าสาหร่ายที่เลือกใช้นั้นมีคุณภาพดีมากพอที่ตัดแต่งแล้วจะไม่แตก ฉีกขาด เพราะหากสาหร่ายแตกหรือฉีกขาดง่าย ก็จะไม่สามารถนำไปใช้ประกอบเมนูได้อย่างสมบูรณ์ ไม่สวยงาม หรือกลายเป็นทำให้เกิด Waste เป็นของเสียที่ทำให้ต้นทุนของเมนูสูงขึ้นได้แบบไม่รู้ตัว

 

  1. อย่าละเลยการคำนวณปริมาณการใช้งานสาหร่ายให้ดี

สืบเนื่องจากขนาดของสาหร่ายทะเลย่างที่เลือกใช้ ผู้ประกอบการจำเป็นต้องคำนึงถึงปริมาณและสัดส่วนการใช้งานสาหร่ายในแต่ละเมนูอย่างรอบคอบด้วย เพราะเราต้องตระหนักไว้เสมอว่า ไม่ว่าจะเป็นสาหร่ายทะเลย่างแผ่นเล็กหรือใหญ่ก็ล้วนมีต้นทุนที่ต้องคำนวณออกมาต่อแผ่นให้เป็นตัวเลขที่ชัดเจน ไม่เช่นนั้นแล้ว หากตัดแต่งขนาดสาหร่ายตามความรู้สึก ก็เสี่ยงมากที่จะทำให้ต้นทุนสูงขึ้นจนขายดีแต่ไม่กำไรได้ เพราะถ้าเราไม่คำนวณปริมาณการใช้งานให้ชัดเจน ไม่ได้กำหนดต้นทุนต่อหน่วยการใช้สาหร่ายในแต่ละเมนูให้ดีแล้วล่ะก็ อาจนำไปสู่การตั้งราคาขายที่ผิดพลาด ไม่เหมาะสมกับต้นทุนสาหร่ายที่ใช้ในการทำเมนู ซึ่งผลลัพธ์สุดท้ายก็คือจะไม่สามารถทำให้ยอดขายสะท้อนกำไรตามเป้าหมายได้ตามที่ตั้งใจไว้

 

เอโร่ สาหร่ายทะเลย่าง

วัตถุดิบคุณภาพเพื่อผู้ประกอบการ

ร้านข้าวปั้น ซูชิ คิมบับ มืออาชีพ

 

แม้ผู้ประกอบการร้านอาหารญี่ปุ่น-เกาหลีหลาย ๆ คนจะมองว่าการทำสาหร่ายทะเลย่างด้วยตัวเองเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบประกอบเมนูสไตล์ข้าวปั้นนั้น จะควบคุมรสชาติความอร่อยได้ตรงตามสูตรที่ต้องการมากกว่า รวมถึงยังให้ความรู้สึกว่าได้ใช้วัตถุดิบสดใหม่ทำเองแบบ Home Made ที่เป็นจุดขายได้ แต่ในความเป็นจริง การเลือกใช้สาหร่ายทะเลย่างสำเร็จรูป ก็มีข้อดีหลายประการที่ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน อย่างเช่นการเลือกใช้ เอโร่ สาหร่ายทะเลย่างสำเร็จรูปในการทำเมนูข้าวปั้น ซูชิ คิมบับนั้น มีข้อดีที่โดดเด่นแตกต่างเพื่อผู้ประกอบการโดยเฉพาะ ดังต่อไปนี้

  1. เป็นสาหร่ายทะเลย่างคุณภาพมีมาตรฐานแน่นอน เพราะเอโร่ สาหร่ายทะเลย่าง เป็นสาหร่ายทะเลแท้นำเข้าจากประเทศเกาหลี ผ่านกระบวนการย่างที่พิถีพิถันจนได้กลิ่นหอม และเนื้อสัมผัสที่กรอบกำลังดี ต่างจากสาหร่ายทะเลย่างที่ทำเอง ซึ่งมีโอกาสเสี่ยงที่จะไม่ได้มาตรฐานเดียวกันทุกครั้ง เพราะหากเปลี่ยนพ่อครัวคนทำ ก็อาจทำให้รสชาติ และคุณภาพเปลี่ยนแปลงไปได้ทันที
  2. แผ่นใหญ่ ทำได้หลากหลายเมนู ทั้ง ซูชิคำ ซูชิโรล คิมบับ และข้าวปั้นสไตล์ต่าง ๆ สามารถตัดแต่งขนาดได้อย่างสบายใจ โดยที่แผ่นสาหร่ายไม่แตกฉีกขาด จึงทำให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถตอบโจทย์การทำเมนูข้าวปั้นได้ทุกสไตล์อย่างสมบูรณ์แบบ
  3. เก็บรักษาง่าย แบ่งใช้งานได้ตามต้องการ โดยยังสามารถคงคุณภาพความกรอบ อร่อย สดใหม่ ไว้ได้เป็นอย่างดี เพราะบรรจุในถุงซิปล็อคกันลม ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิด Waste จากการที่สาหร่ายแห้ง ชืด หนืด เหนียว ซึ่งถือว่าช่วยให้ร้านสามารถควบคุมต้นทุนวัตถุดิบได้อย่างมีประสิทธิภาพมากาขึ้น
  4. คุ้มค่า ราคาย่อมเยา โดย 1 ห่อ บรรจุ 50 แผ่น เฉลี่ยเพียงแผ่นละ 10 บาท ช่วยให้สามารถคำนวณต้นทุนได้อย่างแม่นยำแน่นอน ทำให้สามารถตั้งราคาขายที่สอดคล้องกับกำไรตามเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เอโร่ สาหร่ายทะเลย่าง

ขนาด 105 กรัม ราคา 155 บาท

สั่งซื้อออนไลน์ คลิก 

 

สาหร่ายทะเลย่าง ถือเป็นหนึ่งในวัตถุดิบสำคัญสำหรับการทำเมนูข้าวปั้น ซึ่งใครก็ตามที่เปิดร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่นและเกาหลีจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องให้ความสำคัญกับการเลือกใช้สาหร่ายทะเลที่มีคุณภาพ เพื่อให้สามารถคงความอร่อยของเมนูเอาไว้ได้อย่างลงตัว ตลอดไปจนถึงควบคุมต้นทุนวัตถุดิบให้สอดรับกับเป้าหมายการทำกำไรให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด โดย เอโร่ สาหร่ายทะเลย่างสำเร็จรูป ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่โดดเด่นทั้งในด้านคุณภาพและราคา โดยเป็นสาหร่ายทะเลย่างนำเข้าจากประเทศเกาหลี ช่วยประหยัดเวลาในการทำเมนูให้รวดเร็วได้มากขึ้นกว่าการทำเอง มีรสชาติความอร่อยและขนาดที่ได้มาตรฐานแน่นอน ซึ่งสามารถหาซื้อได้ง่าย ๆ ที่แม็คโครทุกสาขาใกล้บ้าน หรือสั่งซื้อได้ง่าย ๆ ผ่านทางออนไลน์ที่ Makro Pro ซึ่งพร้อมจัดส่งให้ถึงที่ทุกจังหวัดทั่วประเทศ

แท็กที่เกี่ยวข้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง