ในการทำธุรกิจร้านอาหารนั้น ผู้ประกอบการล้วนมีเรื่องใหญ่ๆ ให้ต้องโฟกัสหลายเรื่อง อาทิ วัตถุดิบในการทำอาหารจะต้องดี มีคุณภาพ สดใหม่ เชฟจะต้องมีฝีมือเชี่ยวชาญ รังสรรค์สูตรเด็ดความอร่อยที่มัดใจลูกค้าให้ได้ เป็นต้น
ซึ่งบางทีการโฟกัสเฉพาะแต่เรื่องใหญ่ๆ ก็อาจทำให้เราพลาดเรื่องเล็กๆ ที่สำคัญไม่แพ้กันไป จนก่อให้เกิดความเสียหายได้เช่นกัน ซึ่งหนึ่งในเรื่องเล็กๆ ที่หลายคนมักมองข้ามและคาดไม่ถึงนั้น ก็ได้แก่เรื่อง “น้ำจิ้ม” โดย 3 เหตุผลจากนี้ จะเป็นคำตอบว่าทำไม น้ำจิ้ม หรือ Dipping Sauce จึงไม่เป็นเพียงแค่น้ำจิ้ม
1.ถ้าน้ำจิ้มไม่อร่อย อาหารก็อร่อยน้อยลงจริงหรือไม่?
ปฏิเสธไม่ได้ว่าวัฒนธรรมการทานอาหารของไทยเรา หรือทุกชาติเลยก็ว่าได้ที่จะขาดน้ำจิ้มไปไม่ได้เด็ดขาด เพราะบทบาทของน้ำจิ้มนั้น ไม่เพียงแต่ช่วยให้อาหารอร่อยขึ้น แต่ยังทำให้ อาหารรสชาติธรรมดาๆ หรืออาหารที่ทำจากวัตถุดิบกลางๆ กลายเป็นอาหารรสเลิศได้เลยทีเดียว
จนถึงขั้นว่าถ้าน้ำจิ้มไม่อร่อยแล้ว บางทีอาหารอร่อยแค่ไหน วัตถุดิบดีแค่ไหนก็ไม่อาจมัดใจลูกค้าได้ ดังนั้น หากผู้ประกอบการร้านอาหารไม่ให้ความสำคัญกับน้ำจิ้ม อาจจะเกิดความเสี่ยงทำให้คุณภาพอาหารลดลง รสชาติอาหารดรอปลง จนทำให้ลูกค้าไม่ถูกปากถูกใจ และส่งผลกระทบต่อยอดขายและกำไรของร้านได้ในที่สุด
2.ถ้าให้น้ำจิ้มน้อย ลูกค้าก็นอยด์ไม่ประทับใจ
เพราะน้ำจิ้มช่วยชูรสชาติและความเพลิดเพลินในการทานอาหาร เช่น ของทอดทั้งหลาย ที่หากน้ำจิ้มน้อยไป จิ้มไม่เต็มปากเต็มคำ ก็จะทำให้อรรถรสเสียไปได้ ดังนั้น ลูกค้าจึงมักจะขอน้ำจิ้มมากเป็นพิเศษเสมอ จุดนี้เองจึงทำให้ผู้ประกอบการต้องคำนวณต้นทุนค่าน้ำจิ้มให้ดี
เพื่อให้สามารถเสิร์ฟน้ำจิ้มในปริมาณที่เพียงพอกับความต้องการของลูกค้า และไม่ทำให้ร้านต้องขาดทุน เพราะหากร้านอาหารหวงน้ำจิ้มกับลูกค้าเพราะกลัวขาดทุนเมื่อไร ก็จะนำมาซึ่งปัญหาการถูกคอมเพลน ความไม่พึงพอใจ และส่งผลกระทบต่อความสำเร็จของร้านได้เลยทีเดียว
3.ถ้าทำน้ำจิ้มเอง ต้องคำนวณเรื่อง Waste ให้ดี
ร้านอาหารหลายๆ ร้านมักจะมีสูตรน้ำจิ้มเป็นของตัวเองที่มั่นใจว่าเป็นสูตรเด็ดแตกต่างที่จะทำให้ลูกค้าประทับใจได้มากกว่าร้านอื่นๆ แต่ทั้งนี้ในกระบวนการทำน้ำจิ้มเองนั้น ไม่ว่าจะเป็นน้ำจิ้มซีฟู้ด น้ำจิ้มไก่ น้ำจิ้มสุกี้ ฯลฯ ก็ล้วนแล้วต้องคำนึงถึงการใช้วัตถุดิบที่ให้ดี
จำเป็นต้องมีการคำนวณต้นทุนต่อหน่วยใช้จริง เพื่อให้เกิด Waste น้อยที่สุด และได้ต้นทุนที่ถูกที่สุด เพราะเราต้องไม่ลืมว่า พริก 1 กิโลกรัมที่เราซื้อมานั้น อาจไม่ได้ใช้ได้ทั้งหมด แต่จะมีที่เน่า ที่ต้องตัดทิ้ง ออกไปด้วย ดังนั้น พริกกิโลละ 10 บาท จึงไม่ได้มีต้นทุน ขีดละ 1 บาทเสมอไป ซึ่งถ้าเราไม่ใส่ใจตรงจุดนี้ให้ดี ก็จะทำให้ “ต้นทุนผิดเพี้ยน” และนำไปสู่การใช้น้ำจิ้มจนขาดทุนได้โดยไม่รู้ตัว
น้ำจิ้มสำเร็จรูป ตรา aro ตัวช่วยทำกำไรให้ผู้ประกอบการร้านอาหาร
สืบเนื่องจากความสำคัญของน้ำจิ้มที่มีต่อร้านอาหาร จึงทำให้ “น้ำจิ้มสำเร็จรูป” เป็นหนึ่งในตัวช่วยที่ผู้ประกอบการไม่ควรมองข้าม เพราะ ไม่เพียงแต่ช่วยลดระยะเวลาในการทำงานที่ทำให้ไม่ต้องปรุงน้ำจิ้มเองเท่านั้น แต่น้ำจิ้มสำเร็จรูปที่ได้มาตรฐานอย่างน้ำจิ้มตรา aro
ยังได้รับการปรุงสูตรโดยเชฟผู้เชี่ยวชาญ คำนวณต้นทุนแม่นยำ และได้มีการทดลองรสชาติกับผู้บริโภคแล้วว่าถูกปาก จึงมั่นใจได้ว่าจะช่วยดึงลูกค้าเข้าร้านและทำกำไรให้กับร้านอาหารได้มากขึ้นอย่างแน่นอน โดย 4 ชนิดน้ำจิ้มที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน มีดังต่อไปนี้
1.aro น้ำจิ้มไก่
เหมาะกับเมนูทอดทุกชนิด ที่ไม่ใช่แค่เฉพาะไก่ทอด แต่จะเป็นหมูทอด เนื้อทอด หรือของทานเล่นทอดกรอบ อย่างไส้กรอกไก่ นักเก็ต มันฝรั่งทอด ก็จิ้มทานได้อร่อยไม่แพ้กัน ฯลฯ
ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติ รสชาติถูกปาก ปราศจากสี สารปรุงแต่ง และวัตถุกันเสีย เหมาะกับผู้บริโภคทุกเพศ ทุกวัย ผลิตจากโรงงานมาตราฐาน GMP 1 ขวด ขนาดบรรจุ 5,000 กรัม ราคาเพียง 189 บาทเท่านั้น
2.น้ำจิ้มแจ่ว ตราเอโร่
เหมาะกับเมนูปิ้งย่าง ไม่ว่าจะเป็น หมูย่าง ไก่ย่าง เนื้อย่าง หรือจริงๆ แล้วจะใช้ทานกับของทอดก็อร่อยไปอีกสไตล์ มีความหอมเป็นเอกลักษณ์ รสกลมกล่อม จัดจ้าน เปรี้ยวอมหวานกำลังดี
ตัวน้ำจิ้มมีความเหนียวข้นติดที่เนื้อสัมผัสเวลาลงไปจิ้ม จึงเพิ่มความน่ารับประทานให้มีมากยิ่งขึ้น ผ่านกรรมวิธีการผลิตที่ทันสมัย ได้มาตราฐาน สะอาด ปลอดภัยแก่ผู้บริโภค หาซื้อได้ที่แมคโครทุกสาขา 1 ขวด ขนาดบรรจุ 1,100 กรัม ราคาเพียง 95 บาท
3.น้ำจิ้มซีฟู้ด ตราเอโร่
เหมาะกับอาหารทะเลทุกชนิด ไม่ว่าจะนึ่ง ปิ้ง ลวก ย่าง เพียงแค่จิ้มทานกับน้ำจิ้มซีฟู้ด ก็จะได้รสชาติที่อร่อยขึ้นอีกหลายเท่า ผลิตจากวัตถุดิบมีคุณภาพ พริกสด กระเทียมสด รากผักชีที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี
ผสมผสานปั่นให้เข้ากันจนได้รสชาติแซ่บ จี๊ดจ๊าดถึงใจ ไม่ต้องปรุงเพิ่มให้เสียเวลา ไม่มีส่วนผสมของสารกันเสีย หาซื้อได้ที่แมคโครทุกสาขา 1 ขวด ขนาดบรรจุ 1,100 กรัม ราคาเพียง 100 บาท
4.น้ำจิ้มสุกี้สูตรกวางตุ้ง ตราเอโร่
แน่นอนว่าน้ำจิ้มสุกี้ ก็ต้องใช้ทานกับสุกี้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ยังสามารถใช้ทานกับขนมจีบ บะหมี่แห้ง ใส่เพิ่มรสชาติกับโจ๊ก หรือจิ้มทานกับหมูกระทะ ก็อร่อยได้เช่นกัน ผลิตจาก พริกสด กระเทียมสด และงา ที่มีคุณภาพดี ตามแบบต้นตำรับสูตรกวางตุ้งแท้
ผสมกับส่วนประกอบที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี ทำให้ได้น้ำจิ้มสุกี้สูตรกวางตุ้งที่มีความหอมเป็นพิเศษ อร่อยจบในถุงเดียวโดยไม่ต้องปรุงแต่งเพิ่มเติม ประหยัดเวลา คุ้มค่า ผลิตจากโรงงานมาตราฐาน หาซื้อได้ที่แมคโครทุกสาขา 1 ถุง ขนาด 1 กิโลกรัม ราคาเพียง 50 บาท เท่านั้น
ร้านอาหารที่ไม่ให้ความสำคัญกับ “น้ำจิ้ม” ถือเป็นการดำเนินธุรกิจที่ตั้งอยู่บนความประมาท เพราะถึงแม้น้ำจิ้มจะดูเป็นเรื่องเล็กๆ แต่ในความเป็นจริงนั้น มีความสำคัญเกี่ยวพันทั้งกับเรื่องต้นทุน โครงสร้างราคา ประสิทธิภาพในการทำงานในครัว ตลอดจนรสชาติและคุณภาพของอาหารอย่างแยกไม่ออก
ซึ่งหากผู้ประกอบการบริหารจัดการน้ำจิ้มได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็จะมีโอกาสอย่างมากที่จะช่วยให้ร้านดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น และเพิ่มยอดขายทำกำไรได้มากขึ้น แต่กลับกันหากละเลยไม่ใส่ใจ โอกาสที่จะทำให้ร้านเสียลูกค้าไป และเสียกำไรจนถึงขั้นขาดทุนก็เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ