วิปปิ้งครีม

เลือกวิปปิ้งครีมอย่างไร ให้ทำกำไรได้มากที่สุด

สำหรับผู้ประกอบการร้านเบเกอรี่ ร้านขนมเค้กนั้น “วิปปิ้งครีม” ถือเป็นวัตถุดิบหลักสำคัญ เพราะส่งผลต่อรสชาติความอร่อย หอมหวาน และปริมาณของขนมเค้กโดยตรง โดยหากใช้ วิปปิ้งครีม ที่ไม่มีคุณภาพ ก็อาจทำให้ได้เบเกอรี่ที่ไม่อร่อย ไม่หอมน่าทาน สีสันไม่สวยงาม

นขณะเดียวกันกระบวนการทำเบเกอรี่ก็จะยากขึ้น เช่นอาจทำให้ได้เค้กที่ไม่อยู่ตัว อาจตีเค้กไม่ขึ้นฟู ทำให้เค้กไม่ได้ขนาดปริมาณที่เหมาะสม จนส่งผลต่อการขาย และโครงสร้างต้นทุนได้ ดังนั้น ความรู้ความเข้าใจในการเลือก วิปปิ้งครีม จึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่ผู้ประกอบการร้านเบเกอรี่ไม่ควรมองข้าม

ประเภทของวิปปิ้งครีมที่ควรรู้จัก

วิปปิ้งครีมสามารถแบ่งได้ออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ได้แก่ 

1.วิปปิ้งครีมแท้ หรือ Dairy Whipping Cream

เป็นวิปปิ้งครีมที่ทำจากนม มีไขมันเป็นส่วนผสมสูง จึงตีขึ้นฟูง่าย มีกลิ่นหอม และรสชาติอร่อย ถือเป็นวิปปิ้งครีมที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะทำให้ได้คุณภาพของเบเกอรี่ที่ดีที่สุด โดยวิปปิ้งครีมแท้ที่แนะนำและเหมาะกับผู้ประกอบการร้านเบเกอรี่และร้านอาหาร ได้แก่ เอโร่ วิปปิ้งครีม เพราะมีข้อดี ดังต่อไปนี้

  • เป็นครีมแท้ชนิดวิปปิ้งครีมพาสเจอร์ไรส์ ผลิตจากน้ำนมโคแท้ 100% 
  • ไม่มีส่วนผสมของไขมันพืช  
  • ผ่านการฆ่าเชื้อแบบพาสเจอร์ไรส์เพื่อคงความสดใหม่ของครีม 
  • ตัวครีมมีสีขาวและกลิ่นหอมกว่าครีมชนิด UHT ทำให้เบเกอรี่รสชาติดี และน่าทานมากขึ้น
  • เก็บได้นานถึง 45 วัน
  • ใช้ทำได้ทั้งเมนูคาวและหวาน จึงเหมาะกับผู้ประกอบการร้านอาหารที่มีเบเกอรี่ขายในร้านด้วย เพราะไม่ต้องซื้อวิปปิ้งครีมหลายๆ ชนิด
  • ราคาย่อมเยา

ครีมแท้ชนิดวิปปิ้งครีมพาสเจอร์ไรส ตราเอโร่

เอโร่ วิปปิ้ง ครีม
ขนาด 1,900 มิลลิลิตร  ราคา 325 บาท
สั่งซื้อออนไลน์ คลิก

 

2.วิปปิ้งครีมเทียม หรือ Non-Diary Whipping Cream

เป็นวิปปิ้งครีมที่มีส่วนผสมของน้ำมันพืชหรือน้ำมันปาล์ม อาจมีครีมแท้ผสมอยู่ด้วยก็ได้ แต่ไม่ใช่ครีมแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ จึงทำให้ได้รสชาติ ความหอม และสีสันที่แตกต่างไปจากการใช้วิปปิ้งครีมแท้ โดยตัวครีมของวิปปิ้งครีมเทียมจะขาวกว่า

แต่หอมน้อยกว่า แต่ก็ตีขึ้นฟูได้ง่ายกว่าวิปปิ้งครีมแท้ จึงทำให้ได้รับความนิยมใช้ เพราะช่วยให้การทำเบเกอรี่ง่ายขึ้น ได้ปริมาณที่เยอะ เหมาะสม ขายได้กำไรดีมากขึ้น ซึ่งวิปปิ้งครีมเทียมที่แนะนำและเหมาะกับผู้ประกอบการร้านเบเกอรี่และร้านอาหาร ได้แก่ มิลแลคโกลด์ ครีม เพราะมีข้อดี ที่โดดเด่นกว่าวิปปิ้งครีมเทียมทั่วไป ดังต่อไปนี้

  • Millac gold โฉมใหม่ พัฒนาสูตรโดยเชฟผู้เชี่ยวชาญ จึงได้รสชาติความหอมมันที่ดียิ่งขึ้นไม่แพ้วิปปิ้งครีมแท้
  • ตีขึ้นฟูง่าย ให้ปริมาณหลังตีครีมสูงถึง 3 เท่า
  • มีความอยู่ตัวสูงเมื่อตีวิปทิ้งไว้
  • เนื้อครีมไม่แยกตัวเมื่อนำไปใช้ปรุงอาหาร จึงทำให้ใช้ทำได้ทั้งอาหารคาวและหวาน
  • เก็บได้นาน ไม่เสียง่าย ทำให้ควบคุมจัดการ Waste ได้ดีมากยิ่งขึ้น
  • ราคาย่อมเยา

มิลแลคโกลด์ ครีม

มิลแลคโกลด์ ครีม
ขนาด 1 ลิตร ราคา 125 บาท
สั่งซื้อออนไลน์ คลิก

 

สำหรับแนวทางในการเลือกวิปปิ้งครีมนั้น สิ่งสำคัญคือ ต้องเลือกที่มีคุณภาพดีที่สุด เพราะไม่ว่าจะเป็นวิปปิ้งครีมแท้ หรือวิปปิ้งครีมเทียม ก็มีข้อดีและข้อเสียในตัวเองทั้งคู่ โดยหากเป็นเรื่องของรสชาติ ความหอม อร่อย นั้น วิปปิ้งครีมแท้จะตอบโจทย์ที่สุด แต่หากเป็นการเน้นในเรื่องของความสะดวกในการประกอบเมนู การจัดเก็บง่าย และตีขึ้นฟูง่าย ได้ปริมาณมาก วิปปิ้งครีมเทียมจะตอบโจทย์มากกว่า

แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันทั้งวิปปิ้งครีมแท้และเทียม ก็ได้มีการพัฒนาสูตรใหม่ ให้มีจุดด้อยน้อยลงไปเรื่อยๆ อย่างเช่นวิปปิ้งครีมแท้ของ aro ก็สามารถตีขึ้นฟูได้ง่ายกว่าวิปปิ้งครีมแท้ตัวไป และวิปปิ้งครีมเทียมของมิลแลคโกลด์ ก็พัฒนาให้มีรสชาติที่ใกล้เคียงกับครีมแท้มากขึ้น

ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงอาจต้องเลือกจากการทดลองใช้จริงดูก่อนว่า วิปปิ้งครีมแบบไหนเหมาะกับสูตรเบเกอรี่ของร้านมากที่สุด และมีราคาที่สอดคล้องกับโครงสร้างต้นทุนของมนูในร้านมากที่สุด เพื่อเลือกวิปปิ้งครีมที่เหมาะกับสไตล์การทำงานของร้านให้ได้มากที่สุด ซึ่งที่แมคโครทุกสาขานั้น ถือว่าเป็นแหล่งรวมของวิปปิ้งครีมทุกชนิด ทุกแบบให้ผู้ประกอบการได้เลือกกันอย่างสะดวกสบาย รวมถึงยังสามารถสั่งซื้อง่ายๆ จัดส่งไวผ่านออนไลน์ได้อีกด้วย

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

บทความที่เกี่ยวข้อง